วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2558

มองมอง



มอง
มองสินั่นพระจันทร์งามเด่น
ดึกแล้วเย็นพัดพรมลมวูบไหว
ผิวดินร้อนเริ่มอ่อนค่อยผ่อนคลาย
เสียงหรีดหริ่งเรไรก้องกังวาน

มองฟ้าดำค่ำคืนฝืนสะท้อน
ดวงดาวค่อนฟ้าพราวพริบวิบหวาน
เหมือนจะบอกสัญญาราตรีกาล
รักเกินต้านอารมณ์ข่มความอาย

มองเห็นภาพร้านรวงไฟหรี่หลบ
ใกล้สงบเสียงแสงราตรีฉาย
ขี้เมาค่อยย่องแย่งเดินเยื้องกาย
ยังไม่วายบ่นว่าข้าไม่เมา

ภาพหนุ่มสาวเร้ารุมกุมมือมั่น
ฤๅจะหวั่นเกรงภัยในความเหงา
มีคู่ชิดเคียงข้างหวังบรรเทา
ลืมความเศร้าที่ผ่านมานานวัน

มองพุ่มไม้คล้ายปีศาจราตรีจ้อง
บางครั้งมองเหมือนจับขยับสั่น
ดำทะมึนไกลไกลไหวเอนพลัน
ยืนใจสั่นลืมตัวมิกลัวเกรง

ภาพวาบไหวใจรัวกลัวและกล้า
เหมือนจะท้าบ้าใบ้ใช่ข่มเหง
ในสำนึกลึกล้ำอาจยำเยง
คือบทเพลงสอนใจให้ระวัง

ดอกไม้น้ำค้างแสงแดด
ใบหญ้าอาศรม ลำพูน
๗ มีนาคม ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น